top of page

“มนุษย์เงินเดือนจบใหม่" ควรแบ่งเงินให้พ่อแม่ยังไง



HIGHLIGHTS

จากหยาดเหงื่อแรงเงินของพ่อแม่ที่สนับสนุนให้เรามีความรู้ มีอาชีพและมีรายได้มาใช้จ่ายดูแลตัวเองแล้ว  เราควรกลับไปดูแลท่านด้วยการแบ่งเวลาและมอบรายได้ให้พ่อแม่ด้วย มันเป็นหนึ่งในความภูมิใจเล็กๆและเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เริ่มจากเขียน “แผนที่การเงิน” ของตัวเอง แล้วแบ่งเงินให้ท่านตามกำลังทรัพย์ของเราปิดท้ายบทความด้วยเรื่องราวน่ารักๆของหนุ่มคนหนึ่งที่ออมเงินด้วยวิธีที่แสนธรรมด๊า ธรรมดาแต่ได้ผลเกินคาด คือ มีเงินออมเกือบ 4 แสน ภายในระยะเวลา 1 ปี แล้วนำไปให้พ่อแม่เป็นของขวัญปีใหม่


________________________________________________________________________



"เราควรแบ่งเงินให้พ่อแม่"


หลังจากที่โพสต์เรื่องนี้ในเพจอภินิหารเงินออม ทำให้รู้ว่ามีแฟนเพจส่วนใหญ่ให้เงินพ่อแม่เป็นปกติอยู่แล้ว ในขณะที่บางส่วนก็ไม่เข้าใจว่าจะต้องให้เงินพ่อกับแม่ด้วยหรอ แหม!! เราลองนึกภาพเก่าๆในอดีตกันสักหน่อยว่าตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ เงินที่เราใช้จ่ายมันมาจากไหน เวลาที่เราอยากกินขนม ซื้อของเล่น ไปเที่ยว อยากได้เสื้อผ้าชุดใหม่ รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์การเรียนต่างๆ เงินค่าเรียนพิเศษ แล้วยังมีอีกเยอะม๊าก....

ทั้งหมดนี้ล้วนมาจาก…..หยาดเหงื่อแรงกายแรงเงินของพ่อแม่ทั้งน้านนนนนน นั่นซิ พ่อแม่ทำยังไงถึงทำงานแล้วมีเงินแบ่งมาเลี้ยงดูเราได้ สุดยอดจริงๆ วันนี้เรามีรายได้เป็นของตัวเองแล้ว ควรตอบแทนคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้เรามีวันนี้ด้วย พ่อแม่ของเรานั่นเอง ดังนั้น เราควรทำบุญกับพระในบ้านด้วยการมอบเงินกับพ่อแม่ เพื่อเปิดรับกับโชคดีต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แล้วยังเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่เราสามารถดูแลคนที่เรารักได้ด้วยเรี่ยวแรงจากการทำงานของตัวเองอีกด้วย #ขอปรบมือรัวๆ


2 ขั้นตอนจัดการตัวเองก่อนแบ่งเงินให้พ่อแม่


ขั้นตอนที่ 1 รู้จักเงินของเราจาก “แผนที่การเงิน”


ถ้าเราขับรถหลงทางก็ต้องเปิดแผนที่จะได้รู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน จากนั้นจะต้องไปซ้าย ขวา เดินหน้าหรือถอยหลัง เพื่อจะได้ไปถึงเป้าหมาย เรื่องการเงินก็เหมือนกันที่เราจะต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าสถานการณ์เงินในกระเป๋าของเราเป็นอย่างไร เป็นบวกมีเงินออมหรือว่าติดลบเพราะหนี้สิน เริ่มง่ายๆที่การจดบัญชีรายรับจ่าย แล้วมาสรุปลงใน "แผนที่การเงิน" ในภาพเดียวเพื่อจะได้เห็นเป็นภาพรวมของเงินทั้งหมด


ขั้นตอนที่ 2 แบ่งเงินจำนวนเท่าไหร่ดีน๊า

บอกเป็นจำนวนเงินเป๊ะๆไม่ได้หรอกนะจ๊ะ เพราะมันขึ้นอยู่กับแผนที่การเงินของเราและภาระของแต่ละครอบครัว ขอยกตัวอย่างแนวคิดออกเป็น 2 สถานการณ์นี้นะจ๊ะ

สถานการณ์ที่ 1 เรามีหนี้สินท่วมตัวสำหรับคนที่กู้ยืมเงิน กยศ. มาเรียนก็ต้องเริ่มชำระหนี้ เพื่อให้รุ่นน้องมีเงินไปเรียนต่อ เมื่อเริ่มทำงานมีรายได้ก็มีบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดเข้ามารุมจีบ ถ้าใครไม่ยับยั้งชั่งใจให้ดีก็จะสร้างหนี้ได้ง่ายมาก ถ้าเขียนแผนที่การเงินออกมาแล้วเห็นว่า “ชักหน้าไม่ถึงหลัง” มีรายได้น้อยกว่ารายจ่าย แม้แต่ผ่อนจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำก็ยังจ่ายไม่ได้ แบบนี้เราควรกลับไปจัดการหนี้ของตัวเองให้เงียบสงบลงเสียก่อน จากนั้นค่อยเริ่มส่งเงินให้พ่อแม่ใช้จ่าย


2 เคล็ดลับแนวทางปลดหนี้

เคล็ดลับที่ 1 มีทรัพย์สิน : เปลี่ยนหนี้สั้นให้กลายเป็นหนี้ยาว

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการสินเชื่อมากมาย แต่เราก็ยังไม่รู้ว่าจะเลือกที่ไหน ขอกู้ที่ไหนถึงผ่าน กว่าจะรวบรวมข้อมูลครบ กว่าจะเตรียมเอกสารยื่นของกู้ก็เสียเวลา ดอกเบี้ยเก่าก็เบ่งบานขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มีเว็บไซด์ที่เปรียบเทียบสินเชื่อของแต่ละธนาคาร ทำให้เรารู้ว่าจะกู้ผ่านหรือไม่ โดยใช้เวลาไม่นาน อนาคตน่าจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ

ดู 7 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page