1. ซื้อเมื่อเเน่ใจว่าที่ดินตรงนั้นจะมีมูลค่าเพิ่ม
สิ่งที่จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้ว่าแถวนั้นจะเจริญขึ้นจริง คือ ทางด่วน รถไฟฟ้า ท่าเรือ หรือนิคมอุตสาหกรรม ที่สำคัญคือต้องมีการเริ่มก่อสร้างขึ้นแล้วจะได้มั่นใจว่าพื้นที่ตรงนั้จะเจริญขึ้นในอนาคต
2. ลักษณะที่ดินเเละสภาพเเวดล้อม
ถ้าสิ่งเเวดล้อมไม่ดี ก็คงจะไม่มีลูกค้าคนไหนสนใจจะซื้อ ต้องตรวจสิ่งแวดล้อมแถวนั้น ๆ ด้วย เช่น
เเหล่งน้ำ ไฟฟ้า ถนนทางเข้าออก สิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น
3. ต้องเป็นที่ดินติดถนนหรือมีทางเข้าออกของตัวเอง
ถ้าได้พื้นที่ ที่ติดถนนก็จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นเพราะ จะสะดวกมากต่อการเดินทาง หรือ
มีถนนทางเข้า-ออกเป็นของตัวเองก็จะมั่นใจได้ว่าไม่มีปัญหาการใช้ชีวิตในอนาคต
4. เลือกที่ดินเฉพาะที่อยู่ในหรือใกล้ชุมชนเท่านั้น
ก่อนอื่นเราต้องมั่นใจก่อว่าที่ดินตรงนั้นจะสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต และต้องดูว่าที่ดินแถวนั้นมีประชากรอยู่เยอะ หรือ มีหมู่บ้านเยอะ และใกล้สิ่งทำอำนวยความสะดวก เช่น ตลาด ห้างสรรพสินค้า และอื่น ๆ เป็นต้น
5. เน้นลงทุนที่ดินในพื้นที่ ที่ดินจำกัด
ก็คือ ที่ดินที่พร้อมใช้ประโยชน์ได้เลย อยู่ติดถนน มีประปาพร้อม ยิ่งที่ดินมีความพร้อมที่จะใช้ประโยชน์ได้มากเท่าใด ก็อาจทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้นได้
6. พิจารณาดูรูปร่างเเละรูปทรงที่ดิน
ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะว่าเราต้องคำนวนว่าพื้นที่ตรงนั้นจะใช้ประโยชน์ได้ประมาณไหน รูปทรงที่ดินที่มีมูลค่าสูงสุดก็คือทางสี่เหลี่ยมจัตุรัส หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า
7. เลือกที่ดินแปลงไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป
ถ้าเราจะใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อสร้างคอนโด แนะนำว่า 150-200 ตารางวา กำลังพอดี
ถ้าเป็นอาคารสำนักงาน โรงเเรม ต้องอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเ ควรมีขนาด 200-400 ตารางวา
จะให้ผลตอบเเทนค่อนข้างดี เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง ทำได้ทั้งคอนโดฯ เเละอพาร์ตเมนต์
8. เรื่องที่ควรตรวจสอบก่อนซื้อคือ
เรื่องที่ควรตรวจสอบก่อนซื้อคือ
เเนวเดินสายไฟฟ้าเเรงสูง (การไฟฟ้าฯ)
เเนวเวนคืน (การทางพิเศษฯ และกรมทางหลวง)
สีผังเมือง+ข้อกำหนดห้ามก่อสร้าง (สำนักงานโยธาฯ และสำนักผังเมือง)
ตรวจสอบหลักเขต+ภาระติดพัน (สำนักงานที่ดิน)
เขตวิทยุสื่อสารการบิน (สำนักงานการบินพลเรือนฯ)
댓글