แน่นอนว่าถ้าเป็น “หุ้น” ในช่วงนั้นก็ติดลบกันหมดกระดานเช่นกัน แต่มีหุ้นบางตัวที่ปรับขึ้นมาจากวันนั้นมากกว่า 4,000% นั่นก็คือ AOT ถ้าวันนั้นใครตัดสินใจซื้อ AOT สัก 100,000 บาท เงินวันนี้จะเป็น 4,000,000 บาท ภายในระยะเวลาเพียง 10 ปีเท่านั้น รวมถึงหุ้นตัวใหญ่ ๆ ที่มีชื่อเสียงก็ปรับขึ้นมากกว่า 100% หลายตัวเหมือนกัน ถึงแม้ช่วงนี้ตลาดหุ้นจะปรับตัวลงจนหลายคนทำอะไรไม่ถูก ถ้านับจากจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ตอนนี้หุ้นก็ปรับตัวลงมาเกือบ 50% ได้ ก็ไม่เป็นที่น่าแปลกใจที่จะเห็นพอร์ตหุ้นติดลบ
ถ้าใครไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้หาความรู้จนกว่าจะเข้าใจการลงทุนได้เอง การลงทุนที่อันตรายที่สุดก็คือการลงทุนในสิ่งที่เราไม่เข้าใจ ถ้าเรายังลงทุนตามเพื่อน ไม่สามารถเลือกหุ้นได้เอง แนะนำว่าให้ดูอยู่เฉย ๆ ก่อนดีกว่า ช่วงนี้ตลาดค่อนข้างผันผวน ไม่ต้องคิดเลยว่าเราจะซื้อได้จุดที่ต่ำที่สุด เพราะไม่มีทางรู้เลยว่าจุดต่ำสุดคือตรงไหน
แต่สิ่งที่เราควรจะประเมินได้ก็คือ “หุ้น” ที่เรากำลังจะเข้าซื้อนั้นมีมูลค่าเท่าไหร่ ถ้ามูลค่ามากกว่าราคาก็เข้าซื้อได้ แต่ถ้ามูลค่าน้อยกว่าราคาก็ขายออก การซื้อหุ้นใคร ๆ ก็ทำได้ แต่ตอนขายหุ้นเป็นเรื่องที่วัดความสามารถกันว่าเราจะตัดออกจากพอร์ตไปหรือว่าถือต่อไป ถ้าใครยังประเมินไม่เป็นก็อ่านตามหนังสือ ตามเว็บไซต์ที่สอนประเมินมูลค่าหุ้น
หรือถ้าใครคัดเลือกหุ้นยังไม่คล่องเท่าไหร่ก็แนะนำว่าให้ซื้อพวกกองทุนรวมดัชนี (Passive Fund) ก็ได้เช่นกัน ถ้าเราลองดูผลตอบแทนย้อนหลังของตลาดหุ้นบ้านเรา 10 ปี เราจะเห็นว่าผลตอบแทนสูงถึง 11.35% ต่อปี (ข้อมูลจาก SETTRI ปี 2009 – 2018) เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมตลาดหุ้นถึงเป็นที่นิยม ไม่ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่โอกาสในการลงทุนก็มีมาเสมอ หุ้นตกได้ก็ขึ้นได้เช่นกัน
Comments