ประกันชีวิตสามารถลดหย่อนภาษีได้โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- ต้องเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีเงิน หรือผลประโยชน์ตอบแทนคืนไม่เกินร้อยละ 20 ของเบี้ยประกันชีวิตแบบสะสม (ไม่รวมเงินปันผลตามกรมธรรม์ หรือผลประโยชน์ตอบแทนที่จ่ายเมื่อสิ้นสุดการชำระเบี้ยประกันชีวิต หรือผลประโยชน์ตอบแทนที่จ่ายเมื่อสิ้นสุดอายุกรมธรรม์)
- เบี้ยประกันชีวิตที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ ต้องเป็นเบี้ยประกันชีวิตของกรมธรรม์ประกันชีวิตหลักเท่านั้น
- ต้องเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีกำหนดระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ประกันชีวิตนี้ต้องเอาประกันไว้กับผู้รับประกันภัยที่ประกอบกิจการประกันชีวิตในประเทศไทยเท่านั้น
- เบี้ยประกันชีวิตสำหรับสัญญาเพิ่มเติม เช่น ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ เป็นต้น ไม่สามารถนำไปใช้หักลดหย่อนภาษีได้ไม่ว่ากรณีใดๆทั้งสิ้น
** ประกันชีวิตแบบบำนาญ ยังเป็นประกันชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติม โดยที่ผู้ซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญ นอกจากจะสามารถนำค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญไปหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้ประจำปีในวงเงินเดียวที่เหมือนกับประกันชีวิตแบบทั่วไป เป็นจำนวน 100,000 บาทต่อปีแล้ว ยังมีสิทธิหักลดหย่อนได้เพิ่มเติมอีก 200,000 บาท ทั้งนี้วงเงินที่ได้รับลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้นอีก 200,000 บาทนั้น จะต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้ และเมื่อรวมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
Comments