ปี 2563 เป็นอีกหนึ่งปีที่เป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเพราะเป็นปีที่ประเทศไทยจะได้ใช้งาน 5G เช่นเดียวกับหลายประเทศที่เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ การมาของ 5G นั้นสร้างความตื่นเต้นให้กับทุกวงการ
โดยเฉพาะวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ดูน่าจับตามอง เพราะเทคโนโลยีนั้นมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตลอดจนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ผู้ประกอบการต่างพากันพัฒนาและทุ่มเงินลงทุนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้
5G ไม่เพียงแค่เรื่องของอินเตอร์เน็ตที่รวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของความสามารถในการเชื่อมต่อสิ่งของทุกสรรพสิ่งเข้าด้วยกันที่มากขึ้น
เราจะเห็นการตอบสนองต่อคำสั่งได้รวดเร็วขึ้นหรือแทบจะทันที เราจะเห็นพัฒนาการของเทคโนโลยี ตลอดจนนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โลกจะก้าวข้ามขีดจำกัดของการสื่อสารจากคนสู่คน ไปสู่การสื่อสารจากสิ่งของไปยังสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ เช่นการเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างรถยนต์ด้วยกันเอง หรือการเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างยานพาหนะและระบบควบคุมจราจร
สำหรับภาคอสังหาฯ ที่เห็นได้ชัดคือ 5G จะมีบทบาทเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการอยู่อาศัย โดยเฉพาะการพัฒนาให้ที่อยู่อาศัยก้าวสู่ความเป็น Smart Home อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น จากที่ผ่านมาก็มีเทคโนโลยีที่ผู้ใช้งานสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านภายในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว แต่การเข้ามาของ 5G จะทำให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์มีความสเถียรและรวดเร็วมากขึ้น
นอกจากนี้อุปกรณ์ต่างๆ ยังสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างหลากหลายมากขึ้น การสั่งการด้วยเสียงให้อุปกรณ์ไฟฟ้าสามารถเปิดปิดได้เองนั้นกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว แต่ยังพัฒนาไปถึงการสั่งให้ลำโพงอัจฉริยะเตรียมรายการเพลงสำหรับงานปาร์ตี้ รวมถึงการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์หลายฟังก์ชั่น ทั้งเรื่องของสุขภาพ เช่นการมีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว ตรวจวัดการนอนหลับ หรือเรื่องการควบคุมอุปกรณ์ในบ้านอย่างการเปิดปิดม่าน ควบคุมแสงไฟ อุณภูมิ กลิ่น ให้สอดประสานกันอย่างไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ 5G ยังได้เข้ามามีส่วนสำคัญกับงานบริหารจัดการที่อยู่อาศัย ที่หากสามารถนำ 5G เข้ามาใช้ได้จริง ก็จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์เทคโนโลยี ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและสอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยในยุคปัจจุบันมากขึ้น เช่น
การยกระดับงานรักษาความปลอดภัยด้วย IoT สามารถเชื่อมกล้องวงจรปิด CCTV เข้าสู่ส่วนกลาง ซึ่งสามารถติดตั้งเซนเซอร์และ AI เพิ่มเติม เพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวและวิเคราะห์เหตุการณ์ผิดปกติ ที่จะส่งสัญญาณเตือนมายังผู้ดูแลเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน ทำให้ผู้ดูแลสามารถเข้าถึงจุดเกิดเหตุระงับหรือป้องกันสถานการณ์ได้ทันท่วงที เป็นการยกระดับความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจในการอยู่อาศัยไปอีกขั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ 4G สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้ว แต่การเข้ามาของ 5G จะยกระดับความรวดเร็วและความมีเสถียรภาพมากขึ้น
การใช้โดรนในการส่งพัสดุไปยังบ้านต่างๆ ในหมู่บ้านขนาดใหญ่ การใช้โดรนเข้ามาให้บริการส่งพัสดุนั้นกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วในต่างประเทศ ในไทยเองปัจจุบันมีการแจ้งเตือนเมื่อมีพัสดุมาถึงลูกบ้านผ่านแอพพลิเคชั่น แต่ในอนาคตที่ 5G เข้ามาจะทำให้การรับส่งข้อมูลและการควบคุมโดรนเป็นเรื่องที่ดูมีโอกาสและความเป็นไปได้มากขึ้น เราอาจจะได้เห็นหลายโครงการทดลองริเริ่มนำโดรนมาให้บริการเช่นกันการแพทย์ทางไกลทำให้สามารถดูแลผู้บริโภคได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โครงการที่อยู่อาศัยแบบ Wellness Well-being เริ่มมีมากขึ้น ซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค
ปัจจุบันที่ให้ความสำคัญเรื่องการดูแลสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น รวมถึงโครงสร้างประชากรของโลกที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้นการเข้ามาของ 5G นั้นจะทำให้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ใน
โครงการที่อยู่อาศัยได้ มีเทคโนโลยีใหม่ๆทางการแพทย์เพิ่มขึ้น หรือลดข้อจำกัดของเทคโนโลยีเดิมลง เช่นการรักษาแบบ Telehealth ผ่านวิดีโอคอล ก็จะทำได้อย่างรวดเร็วและไร้รอยต่อยิ่งขึ้น หรือถึงขั้นสามารถผ่าตัดทางไกลแบบเท็กซ์ไทล์อินเทอร์เน็ต หรืออินเทอร์เน็ตแบบสื่อสัมผัส ที่สามารถทําการรักษาคนไข้ได้เสมือนอยู่ในห้องผ่าตัดการดูแลพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เชื่อมต่อเทคโนโลยี AR / VR / IoT เช่นการเชื่อมต่อระบบ Access Control เข้ากับสมาร์ทโฟนในการเข้าออกโครงการ หรือแม้กระทั่งการติดต่อจัดการผ่านแอพพลิเคชั่นสำหรับลูกบ้านในโครงการกับทีมนิติบุคคล ก็จะสามารถทำได้รวดเร็วและเชื่อมต่อได้หลายฟีเจอร์มากขึ้น
รวมทั้งกิจกรรมในพื้นที่ส่วนกลางก็จะได้เห็นที่เป็นแบบเสมือนจริงที่เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น เช่น โปรแกรมตีกอล์ฟบนหน้าจอเสมือนจริงที่สามารถเลือกสนามได้ทั่วโลก หรือเครื่องออกกำลังกาย เครื่องเล่นเกม แบบซิมูเลเตอร์ ให้ลูกบ้านและผู้พักอาศัยได้ทำกิจกรรมในโครงการที่เหมือนเข้าไปอยู่ในสถานการณ์จริง เติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยในยุคดิจิตอล
อย่างไรก็ตามแม้ว่า 5G จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการอสังหาริมทรัพย์ให้ทันสมัยมากขึ้น แต่หากเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างไม่เข้าใจหรือขาดความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น หรือไม่มีการดูแลที่ดี ก็อาจจะไม่สร้างประโยชน์สูงสุดและยังอาจทำให้ผู้ซื้อแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูญเปล่าอีกด้วย ดังนั้นการเลือกโครงการที่มีความทันสมัยนั้นจะต้องมาคู่กันกับทีมผู้บริหารจัดการโครงการที่มีความเป็นมืออาชีพ รู้เท่าทัน ชำนาญในเทคโนโลยี จึงจะทำให้ได้ประโยชน์สูงสุดกับการมาของ 5G ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ค่ะ
Comments