บ้านมือสอง หนึ่งทางเลือกยอดฮิตอีกแบบของคนที่อยากมีบ้าน แต่สำหรับคนที่เป็นมือใหม่ หรือคนที่พึ่งซื้อบ้านหลังแรก ก็จะเจอปัญหากับขั้นตอนในการดำเนินการซื้อขายที่มีหลากหลายกระบวนการเหลือเกิน วันนี้แอดมินจึงจะขอแชร์เทคนิคดีๆที่ใครที่อยากมีบ้านก็เอาไปใช้ได้
1.พิจารณาสภาพแวดล้อมของบ้าน ว่าอยู่ในสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร สังคมโดยรอบเป็นอย่างไรตรงกับวิถีชีวิตของเราหรือไม่ การเดินทางสะดวกสบายสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตประจำวันหรือไม่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆหรือไม่ เช่น ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ
2. ตรวจเช็คผู้ที่ขายบ้านและที่ดินเพื่อสร้างความมั่นใจว่าผู้ขายเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยนั้นจริง และตรวจสอบว่าที่ดินนี้มีความถูกต้องหรือไม่ เพื่อป้องกันตัวเราเองไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง
3. ตรวจเช็ครายละเอียดในการดำเนินการซื้อขาย ควรตกลงกันให้แน่ชัดว่าผู้ใดออกค่าใช้จ่ายอะไร สิ่งที่ได้มากับตัวบ้านมีอะไรบ้าง ตัวอย่างเช่น ค่าโอนบ้าน ค่าภาษีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ภาษีธุรกิจเฉพาะ และค่าอากรแสตมป์
4. ตรวจสอบเรื่องการเวนคืนพื้นที่ของตัวบ้าน หากว่าบ้านที่ซื้ออยู่ในทำเลที่อาจจะถูกเวนคืน เช่น ใกล้สามแยก บ่อยครั้งที่เจ้าของที่ดินเดิมไม่ได้แจ้งไว้ มีการพยายามแบ่งถ่ายทรัพย์สินตนเองก่อนจะมีกฏหมายห้ามขายและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งเราสามารถไปเช็คได้ที่ สำนักงานเขตของตัวบ้านนั้น
5. ตรวจสอบและเตรียมความพร้อมเรื่องการเงิน ดูเรื่องการกู้ การวางเงินดาวน์ เอกสารต่างๆที่ต้องเตรียม และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมดูดอกเบี้ยจากทางธนาคาร
6. ตรวจดูว่าตัวบ้านติดภาระจำนองหรือไม่ เพราะโดยทั่วไปแล้วการซื้อบ้านมือสองส่วนใหญ่จะติดจำนอง ดังนั้นเราจะต้องผ่านกระบวนการไถ่ถอนการจำนองมาก่อน และค่อยโอนกรรมสิทธิ์
7. สำหรับอาคารชุดมือสอง เราจำเป็นจะต้องตรวจสอบเอกสารการจดทะเบียนอาคารชุด นิติบุคคลค่าธรรมเนียมต่างๆรวมไปถึงค่าส่วนกลางและบริการต่างๆ อย่างละเอียด เพราะนอกจากเราจะตรวจสอบค่าใช้จ่าย เมื่อเราซื้อไปแล้วเราจะต้องเสียค่าอะไรบ้าง คุ้มค่าที่เราจะซื้อหรือไม่
8. สำหรับผู้ที่ซื้อที่ดินพร้อมบ้านจัดสรร ทาวน์เฮ้าส์ หรืออาคารพาณิชย์ควรตรวจสอบด้วยว่า ผู้ประกอบธุรกิจหรือเจ้าของโครงการ ได้รับใบอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารมาแล้วหรือไม่ ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยตรวจสอบได้จากกรมโยธาธิการ หรือสำนักงานเขต กทม. หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด แล้วแต่กรณี
9. สุดท้ายเอกสารทุกอย่างควรเก็บไว้อย่างดี และตรวจสอบให้ถูกต้อง ทั้งหนังสือสัญญาการซื้อขาย หรือเอกสารส่วนประกอบของสัญญา เพราะเมื่อเกิดปัญหาเราสามารถใช้เอกสารพวกนี้เป็นหลักฐานในการบังคับให้เจ้าของโครงการหรือผู้ขายทำตามสัญญาได้
Comments