ชีวิตนี้ ชีวิตหนี้
หลายคนคงรู้ซึ้งถึงคำนี้ดี เพราะเวลาอธิบายตามหลักพุทธศาสนา เมื่อก่อเหตุก็ต้องรับผลฉันใด เมื่อก่อหนี้ก็ต้องใช้หนี้ฉันนั้นเช่นกัน เวลาจะอธิบายให้เพื่อนสาวนักช้อปเข้าใจสัจธรรมของโลก ให้อธิบายด้วยสลิปบัตรเครดิต พวกนางก็จะอินเอามากๆ โดยเฉพาะรูดปรื้ด สายพรีออเดอร์
ในเมื่อชีวิตเราจะหนีหนี้ไม่พ้น จะ “ไม่มี ไม่หนี้ ไม่จ่าย” ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเพราะว่าเป็นหนี้เสียทีติดเครดิตบูโรขึ้นแบล็กลิสต์ไป ต่อไปก็จะกลายเป็นคนไม่มีเครดิต จะกู้อะไรก็ยาก ต่อไปอาจลามไปถึงเป็นคดีความใหญ่โต หรือถ้าเป็นหนี้นอกระบบก็แทบจะบอกว่าโบกมือลาชีวิตสงบสุขได้เลย วันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับในการรับมือกับหนี้กันครับ
อ่านแล้วตั้งสติให้ดี “นอกจากชีวิตมีไว้ใช้แล้ว หนี้ก็มีไว้ใช้เช่นกัน”
ข้อแรก "จัดกลุ่มหนี้ให้ดี"
โดยแนะนำให้แบ่งหนี้ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงที่สุด และหนี้จำนวนมากที่สุด เพื่อที่จะนำไปสู่การเจรจาประนอมหนี้ โดยส่วนมากเรามักจะเจรจากับกลุ่มที่มีดอกเบี้ยมากที่สุด จำพวกบัตรเครดิตเพราะส่วนมากจะมีโอกาสในการเจรจาสำเร็จสูง โดยส่วนมากจะเป็นการขอฟรีซดอกเบี้ยให้ไม่เก็บเพิ่มทบไปเรื่อยๆ เพราะอย่างน้อยการที่บริษัทได้เงินต้น ค่าปรับ และดอกเบี้ยบางส่วนก็ย่อมดีกว่าการที่เขาจะไม่ได้อะไรเลยและเป็นคดีความยืดเยื้อเหมือนกัน
ข้อที่สองเปลี่ยนตัวเองเป็น “ยอดนักจด”
ตั้งสติ กล้าเผชิญกับความจริงว่าเราเป็นหนี้และต้องชำระ วางแผนการชำระหนี้โดยจดรายละเอียดของการเป็นหนี้ทั้งหมดออกมาเพื่อดูภาพรวมว่าตอนนี้หนี้ของเราเป็นอย่างไร จนขอมูลเจ้าหนี้ของเรา ยอดหนี้รวม ยอดหนี้ที่เราสามารถจ่ายไหวในแต่ละเดือน อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาผ่อน สำหรับคนที่มีศักยภาพในการผ่อนไหวให้หมายเหตุไว้สองเรื่อง เรื่องแรกเจ้าหนี้แต่ละรายค้างชำระได้กี่เดือน และเรื่องที่สองวิธีคิดดอกเบี้ยอันไหนเป็นแบบคงที่หรือแบบลดต้นลดดอก เพื่อให้คุณประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้องว่าจะเลือกปิดหนี้ก้อนใดก่อน
ข้อที่สาม "รู้หน้าตักของตัวเอง"
แน่นอนว่าเมื่อข้อที่สองเรารู้เขาแล้ว ก็จำเป็นที่ต้องรู้เราด้วย เจรจาจากสิ่งที่เราทำได้ วิธีที่เป็นไปได้และเป็นผลดีกับตัวเรามากที่สุด ไม่ใช่วิธีที่เจ้าหนี้กำหนดขึ้นแล้วเราจ่ายไมได้ เพราะการจ่ายชำระหนี้ที่ตรงเวลาจะเป็นการสร้างเครดิตให้ตัวเอง ด้วยเงื่อนไขที่จ่ายได้โดยไม่ผิดนัดชำระ สร้างเครดิตทางการเงินการชำระหนี้ที่ตรงเวลาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ แม้ว่าเราเคยมีเครดิตทางการเงินไม่ดี ผิดนัดชำระหนี้หรือล้มละลาย อดีตมันทำร้ายเราไม่ได้นอกจากความคิดเราเอง ดังนั้น อะไรที่พลาดไปมันเริ่มต้นใหม่ได้เสมอด้วยความตั้งใจ ควรเลือกวิธีที่จ่ายชำระหนี้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดชำระหนี้สินด้วยจำนวนเงินที่เราคำนวณนี้ไปเรื่อยๆจนหมดหนี้ และถ้าชำระหนี้หมดแล้วควรนำเงินก้อนนี้ไปออมเพื่อสร้างวินัยการออม
สามข้อจำให้มั่น ทำให้แม่น สาวนักช้อปผู้มีบทเรียนจากหนี้ จะต้องผ่านเรื่องนี้ไปให้ได้ ถือว่าเป็นบทเรียนชีวิต เพื่ออนาคตจะได้ไม่คิดที่จะเป็นหนี้จากการบริโภคอีก
Comments